ปรับปรุงล่าสุด ณ วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2565
บริษัท กลุ่ม 15 จำกัด (“นิกันติ กอล์ฟคลับ”) เป็นผู้ประกอบธุรกิจสนามกอล์ฟชั้นนำของประเทศไทย ยึดมั่นการดำเนินธุรกิจอย่างมีจรรยาบรรณ เคารพและปฏิบัติตามกฎหมายที่บังคับใช้ และตระหนักถึงการได้รับความไว้วางใจจากท่านที่ใช้บริการของนิกันติ กอล์ฟคลับ โดย นิกันติ กอล์ฟคลับ เข้าใจดีว่าท่านต้องการความปลอดภัยในการทำธุรกรรมและการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้า
นิกันติ กอล์ฟคลับ เคารพและให้ความสำคัญในสิทธิความเป็นส่วนตัวและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าทุกท่าน บริษัทจึงได้จัดทำนโยบายฉบับนี้ขึ้นเพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ดังมีข้อความต่อไปนี้
1. คำนิยาม
- "บริษัท" หมายถึง บริษัท กลุ่ม 15 จำกัด (นิกันติ กอล์ฟคลับ)
- "ลูกค้า" หมายถึง ลูกค้าหรือผู้ซื้อ หรือผู้ใช้บริการต่าง ๆ ของบริษัท รวมถึงการใช้บริการเว็บไซต์หรือผลิตภัณฑ์ หรือบริการอื่น ๆ ของบริษัท และให้หมายความรวมถึง คู่ค้าธุรกิจ พันธมิตรทางธุรกิจ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้วย
- "ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล" หมายถึง บริษัทซึ่งมีอำนาจตัดสินใจเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆ ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้ข้อมูลส่วนบุคคลจากลูกค้าหรือการให้บริการแก่ลูกค้าหรือต้องทำหรือปฏิบัติตามสัญญากับลูกค้า
- "ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล" หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
- "เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล" หมายถึง เจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยบริษัทเพื่อให้ทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
- "เว็บไซต์" เว็บไซต์ ซึ่งบริษัท กลุ่ม 15 จำกัด เป็นเจ้าของหรือให้บริการแล้วแต่กรณี
- "ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ตามมาตรา 6 ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
- "กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล" หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติม รวมถึงกฎ ระเบียบ และคำสั่งที่เกี่ยวข้อง
- "ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล" การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผู้เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
2. บททั่วไป
นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้จัดทำขึ้นเพื่อแจ้งรายละเอียด การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย และวิธีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าของบริษัท โดยบริษัทอาจดำเนินการปรับปรุงหรือแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดเป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางและหลักเกณฑ์ของกฎหมายที่มีการเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น ท่านจึงควรติดตามนโยบายความเป็นส่วนตัวที่กำหนดไว้นี้อยู่เสมอ
3. ข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อนำไปใช้สำหรับการดำเนินงานของบริษัท และบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัดและเป็นไปเพียงเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและตาม บทบัญญัติของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ถูกเก็บรวบรวมและประมวลผลภายใต้นโยบายฉบับนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทโดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับมาจากบุคคลภายนอกหรือบริษัทได้รับมาจากแหล่งที่มาอื่น สามารถแบ่งประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล ได้ดังนี้
- ข้อมูลแสดงตนของท่านและข้อมูลการติดต่อ เช่น ชื่อและนามสกุล เลขประจำตัวประชาชน เลขที่หนังสือเดินทาง รูปภาพ เพศ วันเกิด อายุ สถานภาพ ที่อยู่ อาชีพ สถานที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรสาร อีเมล เป็นต้น
- ข้อมูลทางการเงินของท่าน เช่น ข้อมูลตามสำเนาสมุดบัญชีธนาคาร เลขประจำตัวผู้เสียภาษี
- ข้อมูลที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐานหรือการทำธุรกรรมต่าง ๆ ของท่าน เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในสำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบอนุญาตขับขี่ สำเนาใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ เลขทะเบียนรถยนต์ สำเนาหนังสือมอบอำนาจ ใบแจ้งหนี้ ใบเสร็จรับเงิน ใบสำคัญจ่าย เป็นต้น
- ข้อมูลด้านเทคโนโลยี เช่น ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address) ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ (Location) โดยใช้เทคโนโลยีระบุตำแหน่ง ประเภทของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้เปิดดูเว็บไซต์ (Browser) ข้อมูลบันทึกการเข้าออกเว็บไซต์ ข้อมูลบันทึกประวัติการใช้เว็บไซต์ ข้อมูลบันทึกการเข้าสู่ระบบ (Login Log) ข้อมูลรายการการทำธุรกรรม (Transaction Log) สถิติการเข้าเว็บไซต์ เวลาที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ (Access Time) ข้อมูลที่ถูกค้นหาหรือเข้าชม ข้อมูลการใช้สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) การใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ ในเว็บไซต์ และข้อมูลที่บริษัทได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookie) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายกัน เป็นต้น
- บันทึกภาพนิ่งหรือบันทึกภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) หรือบันทึกเสียงการสนทนา หรือข้อมูลอื่น ๆ ที่สามารถระบุตัวตนบุคคลได้
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นข้อมูลอ่อนไหว (Sensitive Data) ซึ่งหมายถึง ข้อมูลตามมาตรา 26 ตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลชีวภาพ ข้อมูลลายพิมพ์นิ้วมือ ภาพสแกนใบหน้า (Face scan / Face recognition) ข้อมูลศาสนา ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลเชื้อชาติ ข้อมูลประวัติอาชญากรรม เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทไม่มีนโยบายจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นข้อมูลอ่อนไหวของท่าน เว้นแต่บริษัทได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านหรือกรณีอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนด
4. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
- บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง เช่น เมื่อท่านใช้บริการและให้ข้อมูลผ่านเว็ปไซต์ของบริษัท หรือเมื่อท่านให้ข้อมูลผ่านช่องทางที่บริษัทจัดเตรียมไว้ เมื่อท่านเข้าทำสัญญาหรือธุรกรรมกับบริษัท และส่งมอบเอกสารและสำเนาเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่าน หรือเมื่อท่านสอบถามข้อมูล ให้ความเห็น หรือส่งข้อร้องเรียนต่อบริษัท เป็นต้น หรือ
- บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลภายนอก เช่น หน่วยงานราชการ คู่ค้าหรือพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท เว็บไซต์อื่น ๆ ที่น่าเชื่อถือ เป็นต้น
- กรณีที่ บริษัท ทราบว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมในการเก็บรวบรวม เป็นของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ บริษัท จะไม่ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจนกว่าจะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ตามแต่กรณี ทั้งนี้ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
- ในกรณีการทำธุรกรรม หรือการทำสัญญา หรือการปฏิบัติตามกฎหมาย หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล หรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นปัจจุบันแก่บริษัทอาจส่งผลกระทบต่อท่านที่อาจไม่สามารถทำธุรกรรมกับบริษัท หรืออาจไม่ได้รับความสะดวกหรือไม่ได้รับการปฏิบัติตามสัญญาที่มีอยู่กับบริษัท และอาจทำให้ท่านได้รับความเสียหายหรือเสียโอกาส และอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติตามกฎหมายใดๆ ที่ท่านหรือบริษัทต้องปฏิบัติตาม
- บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งต่อท่าน หรือตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในนโยบายฉบับนี้ โดยในกรณีที่ท่านยุติความสัมพันธ์ หรือสิ้นสุดสัญญากับบริษัท หรือกรณีไม่มีการใช้บริการหรือการทำธุรกรรมบริษัทแล้ว หรือข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการประมวลผลตามวัตถุประสงค์ที่แจ้ง บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาที่กำหนดหลังจากนั้น หรือจัดเก็บตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หรือตามอายุความ หรือเพื่อการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว บริษัทจะดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้
5. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ภายใต้ฐานกฎหมายตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้
- เพื่อวัตถุประสงค์ในการสมัครสมาชิกเป็นลูกค้าหรือลงทะเบียนเปิดบัญชีเป็นลูกค้าของบริษัท เพื่อประโยชน์ในการยืนยันหรือระบุตัวตนของท่านเมื่อเข้าใช้บริการต่าง ๆ หรือเข้าทำสัญญากับบริษัท รวมถึงการดำเนินการตามคำขอของท่านและการปฏิบัติตามสัญญาที่มีต่อท่าน
- เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการการให้บริการกับท่าน เช่น เมื่อบริษัทได้รับคำสั่งซื้อสินค้าและ/หรือบริการจากท่าน บริษัทจะดำเนินการจัดเตรียมสินค้าและ/หรือบริการ การจัดส่งสินค้า การวางบิล และการจัดส่งใบเสร็จหรือเอกสารที่เกี่ยวของให้แก่ท่าน หรือการอื่นใดที่จำเป็นเพื่อให้บริการกับท่านอย่างมีประสิทธิภาพ
- เพื่อการตรวจสอบและรักษาคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าและบริการในกรณีบริษัทหรือท่านพบว่าสินค้าหรือบริการของบริษัทไม่เป็นไปตามมาตรฐาน
- เพื่อประมวลผลหรือวิเคราะห์ประโยชน์อื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท เช่น เพื่อประโยชน์ในการตั้งค่าและการจัดการบัญชีของท่าน การวิเคราะห์การใช้งานเว็ปไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัท การวิเคราะห์ข้อมูลและสำรวจพฤติกรรมของท่าน การส่งมอบการสื่อสารการตลาด การจัดทำสถิติ การวิจัยและการให้บริการ การจัดทำและนำส่งข้อมูลทางการตลาดหรือการโฆษณาภายในบริษัทหรือเป้าหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการจัดส่งเนื้อหา การโฆษณาประชาสัมพันธ์กิจกรรมและโปรโมชั่นต่าง ๆ ตลอดจนการให้คำแนะนำต่าง ๆ ที่เหมาะสม เป็นต้น เพื่อให้การให้บริการต่าง ๆ ให้ตรงกับความสนใจของท่านและพัฒนาคุณภาพการให้บริการของบริษัท
- เพื่อติดต่อลูกค้า ผ่านทางโทรศัพท์ ข้อความ อีเมล หรือไปรษณีย์ หรือผ่านช่องทางอื่นใด เพื่อสอบถาม หรือแจ้งให้ลูกค้าทราบ หรือเพื่อตรวจสอบและยืนยันข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีของลูกค้า หรือสำรวจความคิดเห็น หรือแจ้งข้อมูลข่าวสารอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ ของบริษัทตามที่จำเป็นและเหมาะสม
- เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการเรื่องร้องเรียน คำติชม หรือข้อเสนอแนะจากลูกค้า โดยบริษัทจะนำข้อมูลที่ได้รับจากท่านไปปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการให้บริการให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- เพื่อตรวจสอบข้อมูลการใช้บริการของลูกค้าตามมาตรฐานความปลอดภัยและความมั่นคงของระบบในการใช้บริการและเพื่อการปรับปรุงพัฒนามาตรฐานความปลอดภัยและความมั่นคงของระบบภายในบริษัท ซึ่งบริษัทอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้ามาใช้เพียงเท่าที่จำเป็นและอาจดำเนินการให้มีการเข้ารหัส (Encrypt) ก่อนนำไปใช้ และ/หรือจัดให้มีการสุ่มตรวจ การทดสอบการเข้าใช้งานโดยบุคคลภายนอกเพื่อนำไปใช้ในการบริหารจัดการความเสี่ยง ตรวจจับ ป้องกัน หรือขจัดการฉ้อโกง หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่อาจจะเป็นการละเมิดกฎหมาย ระเบียบการใช้งานที่เกี่ยวข้อง หรือข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งานเว็บไซต์หรือผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท
- เพื่อให้การใช้บริการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หลักเกณฑ์ และระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องหรือใช้บังคับกับบริษัท ทั้งที่มีผลใช้บังคับในปัจจุบันและที่จะมีการแก้ไขหรือเพิ่มเติมในอนาคต และเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
- เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การดำเนินคดีต่าง ๆ ตลอดจนการดำเนินการเพื่อบังคับคดีตามกฎหมาย เช่น การสอบสวนและ/หรือการไต่สวนโดยเจ้าหน้าที่รัฐ การเตรียมคดี การดำเนินคดี และ/หรือการต่อสู้คดีในชั้นศาล เป็นต้น
- เพื่อการตรวจสอบและการรักษาความปลอดภัยของท่านและทรัพย์สินของบริษัท รวมถึงภายในบริเวณอาคารหรือสถานที่ของบริษัท โดยอาจมีการบันทึกข้อมูลการเข้าออกสถานที่ของบริษัท และการบันทึกภาพ และ/หรือ เสียง ภายในอาคารหรือสำนักงาน หรือบริเวณพื้นที่โดยรอบด้วยกล้องวงจรปิด (CCTV)
- เพื่อป้องกัน หรือระงับอันตรายต่อ ชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่าน ซึ่งท่านไม่สามารถให้ความยินยอมได้เองไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม รวมถึงกรณีที่เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่บริษัท หรือลูกจ้าง หรือผู้แทนของบริษัท หรือเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย
- เพื่อการดำเนินการอื่นใดของบริษัทที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ต่อท่านในฐานะลูกค้าของบริษัท ทั้งนี้ หากการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดของบริษัทจำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากท่านก่อนการดำเนินการ บริษัทจะดำเนินการขอความยินยอมจากท่าน
6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้แจ้งแก่ท่านเท่านั้น โดยบริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีดังต่อไปนี้
- บริษัทในเครือของบริษัท โดยบริษัทอาจเปิดเผยให้แก่พนักงานหรือบุคคลกรของบริษัทในเครือตามความจำเป็นเพื่อการประมวลผลตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้
- ผู้ให้บริการซึ่งเป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทมอบหมายหรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่บริหารจัดการหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทในการให้บริการต่าง ๆ เช่น การให้บริการด้านความปลอดภัย การให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือบริการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทหรืออาจเป็นประโยชน์ต่อท่าน
- หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานอื่นตามที่มีอำนาจตามกฎหมาย รวมถึงเจ้าพนักงานหรือหน่วยงานที่มีหน้าที่หรือใช้อำนาจตามกฎหมาย เช่น กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศาล ตำรวจ ธนาคารแห่งประเทศไทย โรงพยาบาล เป็นต้น
- หน่วยงานรัฐวิสาหกิจหรือเอกชน เช่น ธนาคาร สถาบันการเงิน บริษัทประกัน โรงพยาบาล บริษัทขนส่ง เป็นต้น
- พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท เช่น คู่ค้าที่รับดำเนินการจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้า คู่ค้าผู้รับจ้างจัดกิจกรรมเพื่อการประชาสัมพันธ์ของบริษัท คู่ค้าอื่นที่เกี่ยวข้อง ผู้รับเหมา คู่สัญญาของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทและการให้บริการแก่ท่าน เป็นต้น
- ที่ปรึกษาของบริษัท เช่น ผู้ตรวจสอบบัญชี ผู้ตรวจประเมินภายนอก วิทยากร ที่ปรึกษาทางกฎหมาย เป็นต้น เพื่อให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท
- บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่ท่านให้ความยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือหน่วยงานนั้น ๆ
7. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
- ท่านมีสิทธิที่จะทราบหรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท หรือขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม
- ท่านมีสิทธิที่จะขอให้บริษัทดำเนินการแก้ไขเพื่อให้ข้อมูลถูกต้อง เป็นปัจจุบันสมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้ในกรณีที่ท่านเห็นว่าข้อมูลส่วนบุคคลใดที่เกี่ยวกับตนไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่สมบูรณ์ หรืออาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
- ท่านมีสิทธิขอเพิกถอนความยินยอมที่ให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตนเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมดังกล่าวอาจทำให้ท่านไม่สามารถรับบริการหรือทำธุรกรรมกับบริษัทได้ หรืออาจทำให้บริการที่จะได้รับจากบริษัทไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
- ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนจากบริษัทได้ ในกรณีที่บริษัทได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งท่านมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น เมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ หรือท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่สภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้
- ท่านมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนเมื่อใดก็ได้ ใน 3 กรณี ดังนี้ กรณีแรก เพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท หรือเหตุจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท กรณีต่อมา การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการขายตรง กรณีสุดท้าย เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่การจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท
- ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลด้วยเหตุบางประการได้
- ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีดังนี้ กรณีแรก เมื่อบริษัทอยู่ในระหว่างการตรวจสอบตามที่ท่านร้องขอให้ดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ หรือไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด กรณีถัดมาก เมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือทำลาย เพราะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกประมวลผลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ท่านขอให้ระงับการใช้แทน กรณีต่อไป ข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นที่บริษัทจะเก็บรักษา แต่ท่านมีความจำเป็นต้องขอให้บริษัทเก็บรักษาไว้เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตาม หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย และกรณีสุดท้ายคือ ที่ท่านใช้สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และบริษัทอยู่ในระหว่างการพิสูจน์เพื่อปฏิเสธการใช้สิทธิของท่าน
- ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัทหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัทหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือประกาศที่ออกตามกฎหมาย
ทั้งนี้ บริษัทขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำร้องขอใช้สิทธิข้างต้นและดำเนินการตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด หากท่านประสงค์จะใช้สิทธิข้างต้นสามารถดำเนินการโดยติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามข้อมูลการติดต่อในตอนท้ายของนโยบายนี้
8. มาตรการความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจึงกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อให้เป็นไปตามที่กำหนดในนโยบายและ/หรือแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัท บริษัทจะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ มาตรการป้องกันด้านเทคนิค และมาตรการป้องกันทางกายภาพในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล อันประกอบไปด้วยการดำเนินการดังต่อไปนี้ เป็นอย่างน้อย
- การควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและอุปกรณ์ในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยคำนึงถึงการใช้งานและความมั่นคงปลอดภัย
- การกำหนดเกี่ยวกับการอนุญาตหรือกำหนดสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
- การบริหารจัดการการเข้าถึงของผู้ใช้งานเพื่อควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตแล้ว
- การกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ใช้งานเพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต การเปิดเผย การล่วงรู้ หรือการลักลอบทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล การลักขโมยอุปกรณ์จัดเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และ
- การจัดให้มีวิธีการเพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับการเข้าถึง เปลี่ยนแปลง ลบ หรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล ให้สอดคล้องเหมาะสมกับวิธีการและสื่อที่ใช้ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
9. การเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ของบุคคลภายนอก
เว็บไซต์ของบริษัทอาจมีลิงก์เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ของบุคคลภายนอก ซึ่งบุคคลภายนอกเหล่านั้นอาจเก็บรวบรวมข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับการใช้บริการของท่าน โดยบริษัทไม่สามารถรับผิดชอบในความปลอดภัยหรือความเป็นส่วนตัวของข้อมูลใดๆ ของท่านที่เก็บรวบรวมโดยเว็บไซต์ของบุคคลภายนอกดังกล่าว ท่านควรใช้ความระมัดระวังและตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์ และบริการของบุคคลภายนอกเหล่านั้นด้วย
10. การใช้บังคับนโยบายความเป็นส่วนตัว
นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้มีผลใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่บริษัทเป็นผู้เก็บรวบรวม ใช้ และ เปิดเผย และท่านตกลงให้บริษัทมีสิทธิในการเก็บรวบรวม และนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้เก็บรวบรวมไว้แล้ว (หากมี) ตลอดจนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวมในปัจจุบัน และที่จะได้เก็บรวมรวมในอนาคต ไปใช้หรือเปิดเผยแก่บุคคลอื่นภายในขอบเขตตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
11. การทบทวนนโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัทและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะทบทวนนโยบายความเป็นส่วนตัวบับนี้ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง คณะกรรมการของบริษัทจะนำนโยบายฉบับปรับปรุงมาใช้ตามความจำเป็นหรือตามความเหมาะสม
12. กฎหมายที่ใช้บังคับและเขตอำนาจศาล
นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้อยู่ภายใต้การบังคับและตีความตามกฎหมายไทย และให้ศาลไทยเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณาข้อพิพาทใดที่อาจเกิดขึ้น
13. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบ กำกับและให้คำแนะนำในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการประสานงานและให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้สอดคล้องตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
14. ข้อมูลการติดต่อเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
หากท่านมีข้อสงสัย ข้อเสนอแนะหรือข้อกังวลเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของ บริษัท หรือเกี่ยวกับนโยบายนี้ หรือหรือกรณีที่พบว่ามีการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปในทางที่ไม่ชอบ ท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่
1. ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller)
- ชื่อ: สนามกอล์ฟนิกันติ (บริษัท กลุ่ม 15 จำกัด)
- สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 333 หมู่ที่ 2 ตำบลธรรมศาลา อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม 73000
- ช่องทางการติดต่อ: info@nikantigolfclub.com โทร: 034-965666, 034-240600
2. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO(
- ชื่อ: คุณพรรณเพ็ญ มิตรภาพ ตำแหน่ง ผู้จัดการแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ
- สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 333 หมู่ที่ 2 ตำบลธรรมศาลา อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม 73000
- ช่องทางการติดต่อ: dataprotection@nikantigolfclub.com โทร: 034-965666, 034-240600 ต่อ 113
---||---||---||---||---||---||---||---||---||---||---||---||---
นโยบายเกี่ยวกับคุกกี้
คุกกี้ (Cookies) คืออะไร?
Cookies คือ text files ไฟล์ข้อความที่อยู่ในคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนของท่าน ใช้เพื่อจัดเก็บรายละเอียดข้อมูล log การใช้งานอินเตอร์เน็ตของท่าน หรือ พฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของท่าน การใช้คุกกี้มีได้ในหลายวัตถุประสงค์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมของคุกกี้ (Cookies) ได้จาก https://www.kaspersky.com/resource-center/definitions/cookies
เราใช้คุกกี้อย่างไร?
เราจะจัดเก็บข้อมูลการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์จากผู้เข้าเยี่ยมชมทุกรายผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือ เทคโนโลยีที่ใกล้เคียง และเราใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาประสิทธิภาพในการเข้าถึงบริการของเราผ่านระบบอินเตอร์เน็ต รวมถึงพัฒนาประสิทธิภาพในการใช้งานแพลตฟอร์ม โดยจะใช้เพื่อกรณี ดังต่อไปนี้
- เพื่อให้ท่านสามารถเข้าสู่ระบบบัญชีของท่านในแพลตฟอร์มของเราได้อย่างต่อเนื่อง และปลอดภัย
- เพื่อบันทึกข้อมูลการใช้งานบนแพลตฟอร์มของท่าน จัดเนื้อหาข้อมูล รวมถึงรูปแบบแพลตฟอร์มที่ท่านได้ตั้งค่าไว้
- เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้งานและเยี่ยมชมแพลตฟอร์มของท่าน เพื่อปรับเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจ และสามารถตอบสนองความต้องการของท่านมากขึ้น
- เพื่อศึกษาพฤติกรรมของผู้เยี่ยมชมแพลตฟอร์มโดยรวม และนำไปพัฒนาให้สามารถใช้งานได้ง่าย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
คุกกี้ที่ บริษัท กลุ่ม 15 จำกัด (นิกันติ กอล์ฟคลับ) มีและได้ใช้
- Functional Cookies: คุกกี้ประเภทนี้จะทำให้คุณสามารถที่จะใช้ฟังชั่นหลักของเวปไซด์ เช่น การจัดการการจองของคุณในสล็อตเวลาที่คุณเลือก หรือ คงไว้ซึ่งการอยู่เวปในขณะที่คุณค้นหาในเวปไซด์
- Personalized cookies: คุกกี้ประเภทนี้จะทำให้คุณสามารถเยี่ยมชมเวปไซต์อย่างเป็นส่วนตัวในรูปแบบที่คุณเคยเยี่ยมชมและซื้อสินค้า หรือ อื่นๆในทำนองเดียวกันนี้ นอกจากนี้คุกกี้ประเภทนี้จะทำให้คุณสามารถค้นหาได้เร็วขึ้นและได้ข้อเสนอที่ดีที่สุดตามความต้องการของคุณ
- Advertising cookies: คุกกี้ประเภทนี้จะทำให้คุณสามารถรับข้อเสนอจาก นิกันติ กอล์ฟคลับ บนเวปไซด์พันธมิตรของเรา
- Third-party Cookies: คุกกี้บุคคลที่สาม คุกกี้ชนิดนี้จะถูกกำหนดใช้โดยผู้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม อาทิ Google Analytics ซึ่งในบางกรณีจะใช้เครื่องมือที่เรียกว่า enhanced conversion ซึ่งเป็นการติดตามเบอร์มือถือหรืออีเมล โดยก่อนเริ่มดำเนินการได้จะต้องได้รับความยินยอมจากคุณก่อน
- Performance Cookies: คุกกี้เพื่อวัดผลการทำงานของแพลตฟอร์ม คุกกี้ประเภทนี้จะจัดเก็บข้อมูลของผู้เข้าชมแพลตฟอร์มแบบไม่ระบุตัวตน และนำมาวิเคราะห์จำนวนและพฤติกรรมของผู้เข้าชม เพื่อปรับปรุงแพลตฟอร์มให้มีประสิทธิภาพและตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากขึ้น
เมื่อมีการทำการตลาดมีสองประการที่เราจำคำนึงถึงและจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นคือ เราจะไม่ส่งอีเมลหรือข้อความโฆษณาที่คุณไม่ต้องการให้คุณ และ เมื่อคุณได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่น่าสนใจเรารับประกันว่าเราจะไม่แจ้งคุณในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่คุณให้ความสนใจ
เพื่อให้เรารู้จักคุณมากขึ้น (ประวัติการจอง, อาหารที่ชื่นชอบรวมถึงการแพ้อาหาร, และอื่นๆ) และเราจะขออนุญาตคุณเพื่อให้ติดต่อคุณได้ ดังนี้เราจะได้สามารถส่งข้อความถึงคุณได้ในเรื่องที่เกี่ยวกับการให้คำแนะนำในเรื่องการกีฬาที่คุณสนใจ และรวมถึงข้อเสนอพิเศษสำหรับคุณ และกิจกรรมต่างๆที่คุณสนใจ และอื่นๆ
การตั้งค่าคุกกี้
ท่านสามารถตั้งค่าเพื่อปฏิเสธการใช้การคุกกี้ในบราวเซอร์ของท่านได้ โดยมีขั้นตอนในการจัดการดังนี้ :
สำหรับผู้ใช้ระบบซาฟารี (Safari)
- เข้าแอพพลิเคชั่นซาฟารีและเลือก “การตั้งค่า”
- เลือก “ความเป็นส่วนตัว” และจัดการข้อมูลการใช้คุกกี้ตามความต้องการของท่านดังนี้
2.1 เลือก “ป้องกันไม่ให้ติดตามข้ามไซต์” เพื่อยกเลิกตัวติดตามใช้คุกกี้และข้อมูลเว็บไซต์
2.2 เลือก “ปิดกั้นคุกกี้ทั้งหมด” เพื่อปิดกั้นไม่ให้เว็บไซต์บุคคลที่สามและผู้โฆษณาจัดเก็บข้อมูลต่างๆไว้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ
2.3 เลือก “จัดการข้อมูลเว็บไซต์” เพื่อดูว่าเว็บไซต์ใดบ้างที่จัดเก็บคุกกี้และข้อมูลของท่าน
สำหรับผู้ใช้กูเกิ้ลโครม (Google Chrome)
- เข้าระบบกูเกิ้ลโครมในคอมพิวเตอร์ และเลือก “การตั้งค่า” ด้านขวาบน
- เลือก “ขั้นสูง” ด้านล่าง
- เลือก “การตั้งค่าและความปลอดภัย”
- เลือก “การตั้งค่าเว็บไซต์”
- คลิก “คุกกี้”
- หากต้องการยกเลิกการใช้คุกกี้ เลือก “ปิดการอนุญาตให้เว็บไซต์บันทึกและอ่านข้อมูลคุกกี้”
สำหรับผู้ใช้ Internet Explorer
- เมื่อเข้าระบบ Internet Explorer เลือก “การตั้งค่า”
- หากต้องการลบข้อมูลคุกกี้:
2.1 เลือก “ความปลอดภัย”
2.2 เลือก “ลบประวัติการเรียกดู”
2.3 เลือก “คุกกี้และข้อมูลเว็บไซต์” และกด “ลบ” - หากต้องการลบข้อมูลคุกกี้:
3.1 เลือก “เครื่องมือ”
3.2 เลือก “ตัวเลือกอินเทอร์เน็ต”
3.3 เลือก “ความเป็นส่วนตัว”
3.4 กด “ขั้นสูง” และเลือกให้อนุญาตหรือบล็อกคุกกี้
---||---||---||---||---||---||---||---||---||---||---||---||---
ช่องทางการติดต่อ
หากท่านมีข้อเสนอแนะ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงการขอใช้สิทธิตามนโยบายฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อเรา ผ่านช่องทางดังนี้
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล : dataprotection@nikantigolfclub.com